วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562

พระขุนแผน พิมพ์ทรงพลเล็ก กรุวัดบ้านกร่าง จังหวัดสุพรรณบุรี

พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นหนึ่งในพระกรุเนื้อดินที่ได้รับความนิยมอย่างสูงตลอดมาจนถึงปัจจุบัน พระกรุนี้มีหลายพิมพ์เช่นพิมพ์อกใหญ่ พิมพ์ทรงพลใหญ่ พิมพ์ทรงพลเล็ก และพิมพ์พลายเดี่ยวพลายคู่เป็นต้น เชื่อกันว่าพระกรุนี้ให้คุณทางเมตตามหาเสน่ห์ และคงกระพัน เป็นความเชื่อที่สืบต่อกันมา จึงเป็นที่ต้องการของบรรดาหนุ่มๆและไม่หนุ่มทั้งหลาย พระที่ลงในวันนี้เป็นพระขุนแผนพิมพ์ทรงพลเล็ก ซึ่งมีพุทธลักษณะเหมือนพิมพ์ทรงพลใหญ่แต่มีขนาดเล็กกว่า พระกรุนี้มีจุดสังเกตนอกจากเนื้อหามวรสารแล้ว คือรอยว่านหลุด จะมีลักษณะเป็นรอยร่องทรงยาวเล็กๆอยู่บนเนื้อพระ มากน้อยควรจะมี และอีกจุดหนึ่งคือรัก พระกรุเก่าเราจะพบรักเสมอถ้าไม่โดนล้างออก รักเก่าเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งในการตัดสินความเก่าของพระองค์นั้น เพราะฉะนั้นถ้าเราเจอรักเก่าบนพระก็ควรเก็บไว้ ไม่ควรล้างออกเพื่อการพิจารณาพระได้ง่ายขึ้น





วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562

พระสมเด็จนางใน

วันนี้นำพระสมเด็จพิมพ์พิเศษซึ่งมีขนาดเล็กมาให้ชม 2 องค์เป็นฝีมือช่างสิบหมู่แกะแม่พิมพ์ เป็นพระที่ท่านสมเด็จโตทำแจกผู้หญิงชาววังจึงเรียกพระเหล่านี้ว่า "สมเด็จนางใน" พระกลุ่มนี้เท่าที่พบเจอมีอยู่หลายพิมพ์และส่วนใหญ่เป็นฝีมือช่างสิบหมู่แกะแม่พิมพ์ถวาย จึงมีรูปทรงสวยงาม

เพิ่มคำอธิบายภาพ






พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์พิเศษ

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์พิเศษ พระพิมพ์นี้สร้างก่อนท่านมรณะภาพ ๔ เดือนถือว่าเป็นพิมพ์สุดท้่ายของท่านสมเด็จโต องค์พระเป็นรูปท่านเจ้าประคุณสมเด็จ มีพัดยศทั้งสองข้าง มีซุ้มผ่าหวายครอบองค์พระ ด้านล่างเขียนว่า "สมเด็จโต" ตามบันทึกหลวงปู่คำเล่าว่า "ขุนพิทัก (นายแก้ว) เป็นผู้เอาแม่พิมพ์มาถวาย แต่ท่านโตไม่ยอมรับ และพูดว่า อาตมาจะทำพระแจกต้องเป็นรูปพระปฏิมากร ไม่ใช่เอารูปฉันไปแจก ขุนพิทักษ์ก็ไม่ยอมบอกว่าจะเอาไปแจกลูกหลาน โดยขอผงพระที่ปลุกเสกแล้วมากดพิมพ์เอง ท่านเจ้าประคุณไม่รู้จะทำอย่างไร เลยเอาแม่พิมพ์มาวางที่ถาดที่ใส่ผงผสมไว้แล้ว ขุนพิทักษ์ขอให้เณรช่วยพิมพ์พระได้ไป ๑๐๐ กว่าองค์ ผู้ที่มาในวันนั้นจะได้รับแจกพิมพ์รูปเหมือนทุกคน พวกบ้านช่างหล่อได้ไป ๔๐ กว่าองค์ พิมพ์พระได้ประมาณ ๒๐๐ องค์ เผอิญผงติดแม่พิมพ์แคะไม่ออก จึงให้ลูกน้องที่ติดตามเอาไปล้าง แม่พิมพ์ตกลงมาแตก ท่านเจ้าประคุณทราบก็ชอบใจและพูดว่า ฉันไม่เต็มใจให้พิมพ์รูปฉันแม่พิมพ์จึงตกแตก" ส่วนเรื่องประสบการณ์พระพิมพ์นี้หลวงปู่คำยังได้บันทึกไว้ว่า "มีเรื่องเล่าว่าพระพิมพ์นี้ผู้ที่ได้ไปก็เอาไปบูชาและติดตัวไว้ป้องกันอันตราย มีลูกน้องท่านขุนพิทักษ์ ชื่อหมื่นณรงค์เป็นผู้เอาแม่พิมพ์ไปล้างน้ำและตกแตก จึงได้ขอแม่พิมพ์เก็บไว้ป้องกันตัว ต่อมาขุนพิทักษ์ได้ให้หมื่นณรงค์ไปจับพวกอั้งยี่ที่สำเพ็ง ที่ก่อกวนตามร้านค้าเพื่อรีดไถเอาเงิน ได้พาตำรวจไป ๕ นาย พบหัวหน้าอั้งยี่ชื่อนายเล้ง จึงได้ขอเชิญตัวมาที่โรงพักแต่นายเล้งไม่ยอมไปกลับสั่งให้ลูกน้องรุมทำร้าย ส่วนนายเล้งเอาดาบฟันท่านหมื่นณรงค์หลายครั้งแต่ไม่เข้า ท่านหมื่นใช้ไม้กระบองตีนายเล้งหัวแตกเลือดสาดหมดสติไป พวกลูกน้องต่างก็หนีเอาตัวรอดแต่จับมาได้ ๑๒ คน นายตำรวจได้ถามหมื่นณรงค์ว่ามีอะไรดี หมื่นณรงค์จึงหยิบเอาแม่พิมพ์รูปเหมือนให้ดูเป็นที่โจษขาน และเป็นที่ต้องการของคนทั่วไป พวกนักเลงหัวไม้จะหาบูชากันมาก แต่หาไม่ค่อยได้เพราะมีน้อย พระพิมพ์นี้ผู้ที่นำไปใช้ได้ผลดีไม่ว่าจะเป็น ไม้ หอก และของมีคมทั้งหลายก็ไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย จึงเป็นพิมพ์ที่หายากมากที่สุด" ทั้งหมดคัดลอกมาจากบันทึกหลวงปู่คำ (จากหนังสือสมเด็จโต) เอามาให้อ่านเป็นเกล็ดเล็กน้อย อย่าคิดว่าพระพิมพ์แปลกๆแบบนี้ไม่มีปลอมนะครับ เมื่อเรารู้จัก นักปลอมก็ย่อมรู้เช่นกันมีปลอมออกมาหลายปีแล้วครับต้องระวัง เมื่อหลายปีก่อนเห็นแม่ค้าแถวบางรักแขวนพระพิมพ์นี้แต่เป็นพระใหม่ เลยถามว่าได้มาอย่างไร แม่ค้าตอบว่าทำบุญที่วัดอะไรจำไม่ได้แล้วก็ได้พระองค์นี้มา แสดงว่าทางวัดได้เอาพระพิมพ์นี้มาถอดพิมพ์และสร้างขึ้นมาใหม่ไว้แจกหรือให้เช่าบูชาเช่นกัน ส่วนพระที่ลงให้ชมในวันนี้ ให้ชมเป็นวิทยาทานเพราะมีอยู่องค์เดียวครับ



วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ยุคต้น

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ยุคต้น พระองค์นี้ไม่ใช่พิมพ์นิยมแต่เป็นพระแท้ดูง่าย ถ้าคนที่อยากได้พระสมเด็จที่ท่านสมเด็จโตสร้าง เพื่อพึ่งพุทธคุณ อยากแนะนำให้เก็บพระลักษณะนี้ เพราะเป็นพระที่แท้และดูง่าย ราคาหาสะสมได้ไม่ยาก (แต่พระอาจจะหายากสักหน่อย) ถ้าเก็บเพื่อเก็งกำไรไม่แนะนำเพราะขายไม่ได้ราคา พระองค์นี้เป็นพระเนื้อปูนเปลือกหอยมุขผสมข้าวสุก ที่บอกว่าเป็นพระยุคต้นเพราะยังไม่ใช้น้ำมันตังอิ๊วเป็นตัวประสาน ถ้าใช้น้ำมันตังอิ๊วพระจะไม่รานขนาดนี้ ส่วนที่ว่าแท้ดูง่ายเพราะการเกิดของเนื้อตามร่องที่แตกราน การเกิดของเนื้อพระจะเกิดทีละหนึ่งโมเลกุลซึ่งเล็กมาก ต้องใช้เวลากี่ปีเนื้อพระถึงจะเกิดขึ้นเต็มร่อง จนงอกนูนขึ้นมาคล้ายแผลเป็น สิ่งเหล่านี้บอกถึงอายุพระ จึงนับว่าพระองค์นี้เป็นพระเก่าแท้ดูง่าย. 






พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ทรงเจดีย์

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ทรงเจดีย์ พระองค์นี้ผ่านการใช้จนช้ำเนื้อหนึกนุ่มดูง่าย พระองค์นี้เป็นพระยุคกลางเนื้อผงผสมข้าวสุก ที่รู้ว่าเป็นพระยุคกลาง เพราะยังไม่ใช้น้ำมันตังอิ๊วเป็นตัวประสาน พระยุคปลายถึงจะใช้น้ำมันตังอิ๊วเป็นตัวประสาน ถ้าเราเข้าใจเรื่องสีของคราบน้ำมัน น้ำว่าน หรือน้ำอ้อยเคี่ยว เราก็จะสามารถแบ่งยุคของพระองค์นั้นได้




วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2562

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซม


วันนี้ 17 เมษายน ตรงกับวันเกิดของท่านสมเด็จโต ท่านเกิดวันพฤหัส ขึ้น12ค่ำ เดือน 5 ปีวอก จ.ศ.1150 ตรงกับวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2331 จึงขอนำพระที่ท่านสร้างไว้มาลงให้ชม พระองค์นี้เป็นพระพิมพ์ฐานแซมวัดระฆังยุคปลาย สภาพผ่านการใช้จึงทำให้พระดูง่ายขึ้น มีหลายสิ่งที่บอกถึงความเก่า เช่นการยุบตัวม้วนตัว การงอกของเนื้อที่อายุต่างกัน การเกิดเนื้อที่ซ่อมแซมตามร่องรอยแตกราน และการเกิดแคลไซต์ ซึ่งสมัยก่อนเมื่อเห็นคราบขาวๆบนผิวพระ เราก็จะเรียกกันว่า "คราบแป้งโรยพิมพ์" แต่ปัจจุบันเมื่อมีเครื่องมือที่ดีขึ้น และผู้ที่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาทำการศึกษาเนื้อพระสมเด็จมากขึ้น จึงแยกได้ว่าสิ่งที่เรียกว่า "คราบแป้ง" นั้นแท้จริงคือแร่ อะราโกไนท์ (Aragonite) ผสมปนกับแร่ แคลไซต์ (Calcite) ซึ่งเกิดจากแคลเซี่ยมจากปูนเปลือกหอย ที่เป็นส่วนผสมหลักของเนื้อพระ จึงทำให้เกิดฝ้าขาวๆคล้ายคราบแป้ง ในปัจจุบันมีวิธีที่จะตรวจพระแท้ได้มากและง่ายขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา แต่เราก็ต้องมีองค์ความรู้ประกอบด้วย ถ้ามีเครื่องมือดีแต่ไม่มีความรู้ ก็จะไม่เกิดประโยขน์ตามที่ต้องการ





วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2562

พระขุนแผนพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่ กรุวัดบ้านกร่าง จ.สุพรรณบุรี

สุขสันต์ วันสงกรานต์เพื่อนๆทุกท่านครับ พระขุนแผนพิมพ์ห้าเหลี่ยมอกใหญ่นี้ เป็นพิมพ์นิยมสูงสุดของพระกรุบ้านกร่าง ที่เรียกว่า พระขุนแผน "พิมพ์ห้าเหลี่ยม" เพราะมีการตัดขอบเป็นรูปห้าเหลี่ยม และมีหน้าอกที่กว้างจึงเรียก "พิมพ์อกใหญ่" และมีพระห้าเหลี่ยมลักษณะเดียวกันแต่อกแคบกว่าองค์พระดูเรียวเรียก "พิมพ์อกเล็ก" พระกรุบ้า่นกร่างจะมีหลายสี และเอกลักษณ์สำคัญของพระกรุนี้คือรอยว่านหลุด ซึ่งลงไว้ให้ชมตามภาพครับ






วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2562

พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ยุคต้น

วันนี้นำพระยุคต้นมาให้ชมอีกองค์ เป็นพิมพ์ปรกโพธิ์ พระองค์นี้เป็นพระที่บรรจุกรุแต่ไม่ทราบที่ ตามประวัติท่านสมเด็จโตท่านได้นำพระบรรจุไว้หลายแห่งหลายวาระ เนื้อพระองค์นี้เป็นเนื้อผงผสมข้าวสุกและปูนเปลือกหอย มีรอยรานทั่วองค์ รอยรานนี้ทำให้การพิจารณาพระได้ง่ายขึ้น เพราะรอยรานบางแห่งได้เกิดการงอกของเนื้อจนเต็มร่อง นูนขึ้นมาคล้ายแผลเป็น ซึ่งเป็นการซ่อมแซมตัวเองโดยธรรมชาติที่ต้องใช้เวลาอันยาวนาน ตำหนิเหล่านี้จึงสามารถชี้บอกถึงอายุพระองค์นั้นได้อีกวิธีหนึ่ง




วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2562

พระสมเด็จวัดระฆังยุคต้น

พระสมเด็จวัดระฆังยุคต้นองค์นี้ ถ้าเรียกตามแบบดั่งเดิมคือ"พิมพ์พระประธาน" แม่พิมพ์ยังไม่งามนัก ดูซื่อแต่มีเสน่ห์ เป็นพระเนื้อแก่ผงสภาพผ่านการใช้มายาวนาน บนองค์พระบอกเรื่องราวไว้มากมาย เนื้อพระมีคราบหลากสีซึ่งเกิดจากส่วนผสมที่เป็นของเหลว เช่นน้ำว่าน น้ำผึ้ง ยางไม้และน้ำอ้อยเคี่ยวเป็นต้น พระเหล่านี้นับวันก็จะชำรุดเสียหายไป เพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก จึงนำมาให้ชมว่านี่ก็เป็นพระที่ท่านสมเด็จโตสร้างไว้เช่นกัน



วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2562

พระหลวงพ่อปาน พิมพ์ไก่หางพวง


พระหลวงพ่อปาน พิมพ์ไก่หางพวง เป็นพิมพ์ที่นิยมสูงสุดของชุดพระพิมพ์ขี่สัตว์ทั้งหลายซึ่งมี สัตว์พาหนะ ๖ ชนิดคือ ไก่ ครุฑ หนุมาน ปลา เม่น และนก หลวงพ่อปานแห่งวัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านเกิดปีพ.ศ. ๒๔๑๘ มรณะภาพปี พ.ศ. ๒๔๘๑ พระที่ท่านสร้างเป็นเนื้อดินเผาทรงสี่เหลี่ยมมุมมน ด้านบนขอบขององค์พระจะบรรจุผงพุทธคุณเอาไว้ แล้วปิดรูด้วยปูน เหมือนเป็นยาให้ผู้คนไว้ใช้ยามเจ็บป่วยในยุคนั้น เพราะสมัยนั้นยังไม่มีอนามัยหรือโรงพยาบาลเช่นในปัจจุบัน พระของท่านนอกจากดีเด่นทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ผู้คนก็ยังมักนิยมนำมาทำน้ำมนต์ประพรมสินค้า เพื่อให้ขายของดีอีกด้วย คือเด่นทางเมตตาด้วยเช่นกัน หลวงพ่อปานท่านมีชื่อเสียงเรื่องย้นต์เกราะเพชร และได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับหลวงพ่อฤษีลิงดำลูกศิษย์ของท่าน จนหลวงพ่อฤษีลิงดำก็โด่งดังเรื่องยันต์เกราะเพชรเช่นกัน