พระรอดพิมพ์ใหญ่กรุวัดมหาวัน ลำพูน

 

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เกศบัวตูม ปิดทองร่องชาด เป็นพระยุคปลายเนื้อละเอียดแกร่งเป็นมัน มีบางท่านเรียกเนื้อนี้ว่า "เนื้อกระดูก" เพราะดูคล้ายผิวกระดูก พระเนื้อนี้มีมวลสารน้อย มีการยุบตัวดี จัดเป็นพระดูง่ายสบายตา.

 

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ยุคกลาง ฝีมือช่างหลวงแกะแม่พิมพ์ถวาย เนื้อหนึกดูซึ้งตา พระองค์นี้ผ่านการใช้มาพอสมควร แล้วถูกเก็บไม่ได้ใช้เป็นเวลายาวนาน สภาพเนื้อจึงเปลี่ยนแต่ดูแห้ง เมื่อเข้ากล้องขยายกำลังสูงได้พบมวลสารหลากหลาย เช่นหินเขียว ก้อนศิลาธิคุณ เศษพระเมืองกำแพงเพชร และอุลกมณี (สะเก็ดดาว) เป็นต้น.

 

พระกริ่งปวเรศช่วงปี พ.ศ.๒๔๒๖-๒๔๓๕ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข ด้านหลังมีอักษร ร.๕ การแต่งพระกริ่งคมชัดสมเป็นฝีมือช่างหลวง.

 

พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่มีกนก กรุวัดบรมธาตุ วิธีสังเกตว่าเป็นพระกรุนี้คือ ด้านบนตรงส่วนโค้งองค์พระจะตัดเป็นเหลี่ยมห้าเหลี่ยม (กรุฤษีก็ตัดเป็นห้าเหลี่ยมเช่นเดียวกันแต่องค์พระจะต่างกัน) ด้านหลังจะมีรอยกาบหมาก รอยสังขยา รอยทุ่งนา บ้างก็เป็นรอยเซี่ยนไม้ พระซุ้มกอนั้นมีมากกรุแต่พุทธคณไม่แตกต่างกัน.

 

พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ พิมพ์ปั้น เนื้อผงคลุกรักปิดทอง กว้าง1.4 ซม. สูง1.8 ซม.

 

พระปิดตาหลวงพ่อครน วัดบางแซะ เนื้อผงคลุกรักลงรักเก่า

 

พระลีลากำแพงขาว เนื้อชิน กรุเมืองกำแพงเพชร เป็นศิลปะสุโขทัย สกุลช่างกำแพชร สาเหตุที่เรียกว่า พระกำแพงขาว เพราะว่าตอนขึ้นจากกรุใหม่ ๆ มีคราบฝ้าของกรุและปรอทจับตามองค์พระ คนรุ่นเก่าจึงเรียกว่า "พระกำแพงขาว" มีสองพิมพ์คือพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์กลางหรือพิมพ์ข้างแตก พระที่ลงในวันนี้เป็นพิมพ์กลางข้างแตก ซึ่งนิยมกว่าพิมพ์ใหญ่เพราะองค์พระจะคมชัดกว่าพิมพ์ใหญ่ ข้างแขนด้านขวาขององค์พระ จะมีเส้นนูนยาวขนานกัยลำแขน ซึ่งเกิดจากการแตกของแม่พิมพ์ เป็นที่มาของคำว่า "ข้างแตก" ตามผิวพระจะมีเกล็ดกระดี่ หรือบางท่านเรียก"เกล็ดพิมเสน" สีขาวตามผิวและตามร่อง ด้านพุทธคุณไม่ว่าจะเป็นด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม รวมถึงโชคลาภโภคทรัพย์ มีพร้อมในพระลีลากำแพงขาว