วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2557

พระวัดเกศพิมพ์ใหญ่ ๗ ชั้นนิยม

พระวัดเกศพิมพ์ใหญ่ ๗ ชั้นนิยม สภาพสมบูรณ์มากผิวพระยังไม่เปิด เหมือนพระใหม่ในยุคนี้ เป็นพระที่ถูกเก็บไว้อย่างดีมากองค์หนึ่ง เนื้อพระมีความแห้งสูงเกิดการม้วนตัวตามแขนและซุ้ม พระลักษณะนี้จะดูยากสำหรับผู้ที่เริ่มเก็บสะสมใหม่




พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ หลวงวิจาร เจียรนัย

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ของหลวงวิจาร เจียรนัย องค์นี้เป็นพิมพ์อกวี เนื้อแก่ปูน ลงรักปิดทองมาแต่เดิม




วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ลงรักปิดทองร่องชาด

พระองค์นี้เป็นพิมพ์ของหลวงวิจาร เจียรนัย ได้ทาชาดทับด้วยรักดำและปิดทอง เป็นพระที่ทำให้เจ้านายชั้นสูง สำหรับคนทั่วไปจะทาด้วยรักน้ำเกลี้ยง หรือรักสมุก
(รักดำ) หรือยางไม้ จะไม่ใช้ชาดทา ชาดจะใช้สำหรับเจ้าเท่านั้น
เวลาผ่านไปรักที่ทาไว้หนา จะหลุดร่อนเป็นแผ่น ที่ยังติดอยู่ก็จะมีความแห้งและเหี่ยวในตัว ทำให้ง่ายต่อการพิจารณา





วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ถักเชือกโบราณ

พระสมเด็จองค์นี้ถักเชือกมาแต่เดิม น่าจะเป็นฝีมือช่างหลวงเพราะหลังการถักเชือกแล้วมีการลงรักปิดทองทับทั้งองค์พระทั้งหมด การลงรักปิดทองลักษณะนี้เท่าที่เจอ
เป็นงานช่างหลวง เจอแบบชาวบ้านถักก็มีแต่ฝีมือหยาบกว่านี้ พระองค์นี้เป็นพระเก่าเก็บ ไม่ผ่านการใช้ รักบนองค์พระได้หลุดร่อนตามการเวลา ส่วนรักบนเชือกยังติดแน่นคงทน เป็นพระที่หาดูยากในยุคนี้





วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เศษ๓ (ช่างสิปป์หมู่)

พระองค์นี้เป็นงานช่างคนละคนกับ ๒ องค์ที่ลงก่อนหน้านี้ แต่เป็นช่างสิปป์หมู่เช่นกัน ลักษณะองค์พระใกล้เคียงกับวัดเกศเข่าบ่วงมาก พระองค์นี้เป็นเนื้อ
ผงผสมข้าวสุกใช้น้ำมันตั้งอิ้วเป็นตัวประสาน (คราบออกเหลือง) แสดงว่าพระองคืนี้สร้างหลัง พ.ศ.๒๔๐๗ ซึ่งเป็นพระยุคเดียวกับพระ ๒ องค์ที่ลงไว้ก่อนองค์นี้
แต่เป็นพระคนละเนื้อ และช่างคนละคนกัน ทำไมถึงรู้ว่าสร้างหลังปี พ.ศ.๒๔๐๗ ก็เพราะหลวงวิจาร เจียรนัย แนะนำให้ใช้น้ำมันตั้งอิ้วเมื่อปี พ.ศ.๒๔๐๗ และเป็นปีแรกที่หลวงวิจาร แกะพิมพ์ถวายท่านสมเด็จโต






เคยบอกไว้แล้วว่าพระเนื้อข้าวสุกที่ท่านทำมี ๒ แบบคือ ๑,นำข้าวสุกมาตำเลย  ๒,นำข้าวสุกไปตากแดดก่อนแล้วค่อยนำมาตำ พระองค์นี้เป็นพระที่นำข้าวสุกไปตากแดดก่อน ดังจะเห็นเมล็ดข้าวที่ตำไม่ละเอียดผสมอยู่ ที่วงไว้ด้วยสีฟ้า ส่วนที่วงสีเขียวคือทรายเสก ซึ่งการที่จะถ่ายให้เห็นนั้นค่อนข้างยาก
ทรายเสกนั้นจะเป็นจุดแววแสงคล้ายกากเพชร มี ๒ สี คือลีเงินและสีทอง จึงเรียกกันว่า"ทรายเงิน ทรายทอง" ของสิ่งนี้คืออะไรผู้เขียนก็ยังตอบไม่ได้ ไม่มีหลักฐานชัดเจน เคยอ่านเจอมีคนเขียนบทความว่า ท่านจารอักขระลงบนแผ่นเงินและแผ่นทอง เสร็จแล้วเอาตะไบมาตะไบให้เป็นผง ข้อมูลนี้ผู้เขียนยังไม่เชื่อ
น่าจะเป็นการจินตนาการของนักเขียนผู้นั้นมากกว่า อีกกระแสผู้เขียนเคยคุยกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งท่านเล่าว่า เคยได้แผ่น CD เป็นบทแปลจากภาษาบาลีที่หลวงปู่โตบันทึกการสร้างพระของท่านลงบนแผ่นเงิน แผ่นเงินนี้เจอที่วัดแห่งหนึ่งที่ท่านเคยอยู่ และได้มีการแปลเป็นภาษาไทยพร้อมบันทึก CD ไว้แต่ท่านผู้เล่าได้ทำแผ่น CD หายไป ท่านว่าในบันทึกนั้นบอกว่าส่วนผสมของพระสมเด็จนั้น มีพระธาตุเขาสามร้อยยอดด้วย ทำให้ผู้เขียนนึกถึงทรายเงินทรายทอง เพราะพระธาตุเขาสามร้อยยอดจะมีลักษณะนี้เช่นกัน ใครสะสมศึกษาเรื่องพระธาตุคงรู้ดี มีโอกาศผู้เขียนจะถ่ายภาพพระธาตุเขาสามร้อยยอดให้ดูเปรียบเทียบ
ข้อมูลหลังนี้น่าสนใจ แต่จะให้ฟันธงเลยก็ไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน เก็บไว้เป็นข้อมูลในการพิจารณาก็แล้วกันครับ

วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์พิเศษ๒ (ช่างสิปป์หมู่)

พระองค์นี้เป็นพระเนื้อผงผสมปูนเปลือกหอย ใช้น้ำอ้อยเคี่ยวเป็นตัวประสาน (คราบน้ำอ้อยเคี่ยวจะออกสีดำอมเทา)



พระสององค์นี้เป็นฝีมือช่างแกะพิมพ์คนเดียวกัน

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์พิเศษ (ช่างสิปป์หมู่)

วันนี้เอาพระพิมพ์พิเศษให้ดู เป็นงานแกะพิมพ์ฝีมือช่างสิปป์หมู่  ผู้เขียนได้ตามเก็บสะสมผลงานของช่างท่านนี้มานาน ท่านแกะแม่พิมพ์ไว้หลายพิมพ์มีโอกาสจะลงให้ดู เท่าที่ค้นข้อมูลได้ งานของช่างท่านนี้
จะสร้างอยู่ในระหว่างปี พ.ศ.๒๔๐๗ - พ.ศ.๒๔๑๐ ซึ่งท่านได้เป็นสมเด็จแล้ว การแกะองค์พระของช่างท่านนี้จะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เห็นที่ไหนก็จำได้ สาเหตุที่เอามาลงให้ชมเพราะอยากให้รู้จักว่า
พระแนวนี้ ท่านสมเด็จโตก็ได้สร้างไว้ เผื่อเจอที่ไหนจะได้เก็บสะสม เป็นของดีนอกตาเซียนครับ



วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่อกวี ลงรักน้ำเกลี้ยง

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่อกวี ลงรักน้ำเกลี้ยงมาแต่เดิมตามพื้นมีคราบแป้ง (ภาษาที่นิยมใช้ ) หลังปริตามขอบแบบที่นิยมเล่นหากัน คือหลังปริต้องตามขอบถึงจะใช้ได้ ไม่รู้ใครตั้งทฤษฎีนี้ขึ้นมา ก็ว่ากันไป
พูดถึงหลักความเป็นจริง ธรรมชาติกำหนดไม่ได้หลอกครับคือการปริ ก็มีรอยปริทั่วไปตามธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น ปริตรงกลางหรือตรงอื่นก็มี ไม่จำเป็นต้องปริเฉพาะขอบหรอกครับ บางครั้งเราไปเจอพระสวยดูดีหมด แต่หลังปริตรงกลาง
ไม่ได้ปริตรงขอบข้างก็เลยลังเลไม่เอา เลยพลาดของดีไปอย่างน่าเสียดาย เพราะฉะนั้นดูพระด้วยเหตุด้วยผลครับ ไม่ใช่ใครบอกอะไรก็จะเชื่อไปซะหมด คนยุคนี้ไม่มีใครเกิดทันสักคน เรื่องพระแท้ต้องแพงก็อีกนั่นแหละครับ
ราคาอยู่ที่เจ้าของพระองค์นั้นว่าจะให้เช่าเท่าไร ไม่จำเป็นว่าแพงแล้วจะแท้ ถูกแล้วจะต้องเก๊ บางคนได้มาแบบไม่มีต้นทุนคือตกทอดมา ตัวเองไม่มีความรู้ ให้เช่าในราคาขนมก็เจออยู่บ่อย ไม่งั้นพระจะมาจากไหนละ
ครับ ส่วนใหญ่จะอยู่กับชาวบ้านคนธรรมดานี่แหละ มากที่สุด 




วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัระฆังพิมพ์ใหญ่อกวี

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ อกวีเกศทะลุซุ้ม เป็นพระเนื้อผงผสมปูนสุกใช้น้ำมันตั้งอิ้วเป็นตัวประสาน เนื้อจึงออกหนึกแกร่ง มีการยุบ ย่น ตามการเวลา



วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เจดีย์

พระพิมพ์เจดีย์องค์นี้ พิมพ์ทรงคล้ายของกรุวัดบางขุนพรหม เนื้อก็แก่ปูนแบบเนื้อของบางขุนพรหมแต่ผู้เขียนมั่นใจว่าเป็นของวัดระฆังยุคปลาย แม่พิมพ์ฝีมือ
ช่างสิปป์หมู่ ด้านหลังเป็นลายกระดาน เป็นพระเนื้อแกร่ง




วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557

พุทธศาสนสุภาษิต


พระสมเด็จ สองคลอง

พระสองคลองคือพระสร้างที่วัดระฆัง นำไปบรรจุที่วัดบางขุนพรหม เขาจึงเรียกพระสองคลองหรือพระฝากกรุ