วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พระสมเด็จพิมพ์พิเศษ (พิมพ์นาคปรก)

พระองค์นี้ถือเป็นพิมพ์พิเศษ หรือพระนอกพิมพ์ (ที่เล่นกัน) สันนิษฐานว่ากดพิมพ์ในวังเพราะใช้ของมีคมตัดขอบ ถ้ากดพิมพ์ที่วัดระฆังจะใช้ตอกตัด เนื้อหาเป็นแบบวัดระฆัง วันนี้นำมาลงไว้ให้ศึกษาว่า...แบบนี้ก็มี



วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พระปิดตาหลวงพ่อครน วัดบางแซะเนื้องาแกะ


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูม ๓

พระองค์นี้เป็นพิมพ์เกศบัวตูมอีกพิมพ์หนึ่ง ซึ่งผ่านการใช้จนผิวเปิดออกหมด ทำให้เห็นเนื้อในชัดเจนเรียกว่าพระดูง่าย ฐานชั้นล่างสุดมีรูเป็นหลุมลึกเกิดจากมวลสารบางตัวที่สามารถย่อยสลายได้ บางตำราว่าเมื่อท่านถวายอาหารพระพุทธแล้ว ท่านจะนำอาหารนั้นมาตากให้แห้ง แล้วนำมาบดผสมกับมวลสารอื่นๆมวลสารเหล่านี้ย่อยสลายได้ มวลสารเหล่านี้ถ้าอยู่บนผิวพระ หลังจากย่อยสลายไปแล้วก็จะเกิดรูหรือโพลงตามขนาดของมวลสารชิ้นนั้น แต่ถ้ามวลสารนั้นผสมอยู่ในเนื้อใต้ผิวพระ เมื่อย่อยสลายเราก็จะมองไม่เห็น พระสมเด็จที่สภาพผิวยังไม่เปิดเราจะไม่ค่อยเห็นมวลมากนัก แต่ถ้าผิวเปิดออกแล้วมักเจอมวลสารมากมาย โดยเฉพาะพระยุคต้นและยุคกลาง พระองค์นี้เป็นพระยุคกลางเพราะใช้น้ำอ้อยเคี่ยวเป็นตัวประสาน ผู้ที่ชำนาญหรือเห็นพระมามาก(พระสมเด็จแท้) เมื่อเจอพระที่สภาพสวยสมบูรณ์ผิวยังไม่เปิด ซึ่งเป็นพระดูยากสำหรับคนทั่วไป แต่คนเหล่านี้สามารถนึกภาพออกว่าหลังการใช้สภาพพระจะเป็นอย่างไร คนพวกนี้จะได้เปรียบกว่าผู้อื่นจะได้พระสวย แล้วนำมาแขวนให้เนื้อพระฉ่ำเปลี่ยนสภาพ เขาเรียกบ่มพระ บางคนก็เจาะรูที่กรอบพระเพื่อให้ไอตัวผ่านเข้าออกได้ดีขึ้น พระก็จะเปลี่ยนสภาพเร็วขึ้น จากพระดูยากก็จะเป็นพระดูง่ายหลังบ่มเข้าที่แล้ว แต่ถ้าเป็นพระใหม่บ่มเป็นปีก็ไม่เปลี่ยนจะเกิดแต่คราบสีเหลืองเท่านั้น เพราะความชี้นในองค์พระยังมีมากอยู่ต่างจากพระเก่าอายุเป็นร้อยปี ความชื้นในองค์พระเหลือน้อยหรือแทบจะไม่มี เมื่อโดนไอตัวความชื้นก็จะซึมเข้าเนื้อพระโมเลกุลต่างๆที่แห้งอยู่ก็เริ่มเปลี่ยนแปลง เหมือนฟองน้ำที่แห้งผากเมื่อโดนน้ำก็จะเปลี่ยนทั้งสีและขนาดฉันใด พระสมเด็จเก่าก็เป็นฉันนั้น เมื่อพระสมเด็จเปลี่ยนสภาพได้ถ้ามีความชื้นมากเกินไปพระก็จะเปลี่ยนสภาพอีก เรียกว่าพระบวมอันนี้เรื่องจริงคนส่วนใหญ่ไม่รู้ เมื่อพระบวมพวกมืออาชีพก็ต้องไล่เอาความชื้นออก ซึ่งในกลุ่มเขาเรียกว่า "ย่างพระ" ไม่ได้ใส่ตะแกลงย่างไฟแบบย่างปลานะครับ อย่าได้ไปทำเชียว




ขยายมวลสารให้ดูบางส่วน A,เนื้อเทียนที่บูชาพระ B,ผงพุทธคุณต้องมีทุกองค์ C,พระธาตุขาวขุ่น D,ชิ้นส่วนพระซุ้มกอ E,ผงใบลานเผา F,ถ่านก้านธูป G,จุดดำ-จุดแดง ละอองถ่านและละอองอิฐขณะเผาเปลือกหอย H,เม็ดครามหรือหินเขียว I,พระธาตุขาวใส J,ผงเกสรดอกไม้ชนิดต่างๆที่ท่านบดใส่ จะมีสีแดงเข้ม น้ำตาล และดำจะเป็นทรงเหลี่ยมและมีขนาดใหญ่กว่าจุดดำ-จุดแดงในข้อ G

วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูม ๒

วันนี้ให้ดูพิมพ์เกศบัวตูมอีก องค์นี้มีเส้นแซมใต้พระเพลา (ตัก) หนึ่งเส้น บางองค์ไม่มีเส้นแซมเลยก็มี สำหรับองค์ที่ไม่มีเส้นแซมจะคล้ายพิมพ์ทรงเจดีย์ วิธีแยกพิมพ์ให้ดูที่พระโมลี (จุก) บนพระเศียรพิมพ์เกศบัวตูมจะมีพระโมลีทุกองค์ ส่วนพิมพ์ทรงเจดีย์จะเป็นเกศขึ้นจากพระเศียรเลย จะไม่มีพระโมลีขั้น



พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูม ลงรักปิดทอง

พระพิมพ์นี้มีในหนังสือบันทึกของหลวงปู่คำหน้า ๓๐๒ ช่างสิบหมู่เป็นผู้แกะพิมพ์ เนื้อพระเป็นพระผงผสมข้าวสุก ผงเกสร ผงใบลาน และน้ำอ้อยเคี่ยว สร้างไว้ปีพ.ศ.๒๓๙๗ ท่านอายุ๖๗ปี และได้นำพิมพ์นี้มาทำอีกครั้ง
เพื่อบรรจุกรุวัดบางขุนพรหมใน (วัดใหม่อมตรส) ในปีพ.ศ.๒๔๑๓ ซึ่งจะเป็นเนื้อแก่ปูนเปลือกหอยและใช้น้ำมันตั้งอิ้วเป็นตัวประสานเนื้อ เพราะฉะนั้นพระพิมพ์นี้จะมี ๒ เนื้อและ ๒ วัด







พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูม




วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พระขุนแผนเคลือบ พิมพ์แขนอ่อน

พระขุนแผนเคลือบ พิมพ์แขนอ่อนเนื้อพระเป็นเนื้อดินขาวเคลือบด้วยน้ำยาแบบสุโขทัย ศิลปะช่างอยุธยาอายุพระประมาณ ๖๐๐ ปี พบที่วัดใหญ่ชัยมงคล วัดนี้แต่เดิมมีชื่อว่า วัดป่าแก้ว วัดนี้สันนิฐานว่าพระเจ้าอู่ทองเป็นผู้สร้างราวปี พ.ศ.๑๘๔๘-๑๙๐๓ ส่วนพระขุนแผนนั้นตามประวัติว่า เมื่อพระนเรศวรทรงกระทำยุทธหหัตถีเอาชนะพระมหาอุปราชาได้แล้ว
พระสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว (พระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวร) รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการไทยทั้งปวง พร้อมใจกันสร้างพระขุนแผนเคลือบ และสร้างพระเจดีย์ใหญ่เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพระเกียรติยศ แด่องค์สมเด็จพระนรเศวร และได้เปลี่ยนชื่อวัดจาก"วัดป่าแก้ว"มาเป็น"วัดใหญ่ชัยมงคล" จนทุกวันนี้

น้ำยาที่เคลือบจะเคลือบเฉพาะด้านหน้า ด้านหลังไม่เคลือบ ส่วนด้านหลังจะเป็นรอยลายนิ้วมือกด พระขุนแผนเคลือบกรุนี้มี ๒ พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก 
(แขนอ่อน) พระชุดนี้จะมีการปิดทองก่อนลงกรุด้วย
พระที่ขึ้นจากกรุวัดใหญ่ชัยมงคล ไม่หักไม่ชำรุดมีประมาณ ๒๐๐ องค์ กรุอื่นๆอีกประมาณ ๑๐๐ องค์ รวมเป็น ๓๐๐ องค์
 




สิ่งที่ผู้เขียนสังเกตุเจอคือ แสงสะท้อนของน้ำยาเคลือบจะแววออกสีรุ้ง และรักบางแห้งลนิทรอยแตกรานของน้ำเคลือบเป็น ๒ ชั้น ส่วนทฤษฎีที่ว่าพระแท้เอานิ้วลูบสัมผัสด้านหลังจะนุ่มคล้ายกำมะหยี่ก็เป็นเช่นนั้นจริง แต่จะชี้ว่าเป็นพระเก่าไม่ได้ เพราะพระสร้างเรียนแบบยุคนี้เอานิ้วลูบก็เป็นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นดูด้วยวิธีนี้ไม่ได้ครับ


วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่

วันนี้เอาพระที่ลงไว้ให้ทำบุญมาขยายให้ดู ๒ องค์ องค์แรกเป็นพิมพ์ใหญ่อกกระบอกเป็นพิมพ์นิยมของ หลวงวิจาร เจียรนัย (B3)

พระองค์นี้ยังไม่ผ่านการใข้จะเห็นคราบแป้งสีขาวนวลปกคลุมตามพื้นผนัง ส่วนที่นูนจะโดนสัมผัสคราบแป้งหมดไป ทำให้เห็นความหนึกของผิว ส่วนวงสีแดงเพิ่อให้ดูจุดแดงและจุดดำ เพราะในพระสมเด็จเนื้อปูนเปลือกหอยต้องมีทุกองค์ ซึ่งเกิดขึันโดยธรรมชาติขณะเผาเปลือกหอย จุดแดงคือละอองอิฐของเตาเผา จุดดำคือละอองถ่านไม้โกงกางที่ปลิวมาผสมกับปูนเปลือกหอย พระที่ทำจากปูนปลาสเตอร์ไม่มี สิ่งเหล่านี้เป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่สำคัญไว้สังเกตุดูเนื้อพระสมเด็จ

องค์นี้เป็นพิมพ์อกวี (รหัสB1) เป็นพิมพ์นิยมของหลวงวิจาร เจียรนัยเช่นกัน

วงสีแดงคือผงพุทธคุณ ที่มีกระจายอยู่ทั่วองค์พระ วงสีม่วงคือชิ้นส่วนพระซุ้มกอ

ภาพนี้ขยายให้ดูความหนึกของเนื้อ และถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นจุดดำ-จุดแดง และผงพุทธคุณกระจายอยู่ทั่วไปพระเหล่านี้ยังไม่ผ่านการใช้ เพราะฉะนั้นมวลสารที่เห็นเป็นเพียงมวลสารลอยตามผิว ซึ่งถ้าผ่านการใช้จนผิวเปิดแล้วจะเห็นมวลสารต่างๆชัดเจนกลายเป็นพระดูง่าย ที่ใครๆก็ต้องการ เพราะคนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยได้เห็นพระที่สมบูรณ์ขนาดนี้ จะเข้าใจกันว่าพระสมเด็จจะต้องมีสภาพที่ใช้จนสึกจนช้ำหมดแล้ว ถึงจะเป็นพระแท้ เมื่อเจอพระที่มีสภาพสมบูรณ์เลยดูลำบาก

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์นางพญา

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์นางพญา หรือพระนางพญาเนื้อสมเด็จนั้น ท่านสมเด็จโตได้สร้างไว้หลายยุค เท่าที่พบมีตั้งแต่พระยุคต้นถีงยุคปลาย มีเรื่องเล่าว่าท่านเป็นอาจารย์สอนนักธรรมและสอนพระเปรียญ ลูกศิษย์ที่มาเรียนกับท่านมีแทบทุกภาคและเมื่อเรียนจบก็จะขอเนื้อผงจากท่านมากดพิมพ์พระประจำภาคของตน เช่นคนอยู่ภาคเหนือก็จะเอาพิมพ์พระรอด พระลือ พระคงและพิมพ์อื่นๆที่นิยมทางเหนือมากดพิมพ์ คนพิษณุโลกก็จะเอาพิมพ์พระนางพญามากดพิมพ์ ซึ่งก็มีหลายพิมพ์ เพราะฉะนั้นพระเนื้อผงของท่านจะมีครบชุดเบญจภาคี เพราะลูกศิษย์ของท่านจะมีแทบทุกภาค เหมือนเป็นประเพณีว่าเมื่อเรียนจบจะต้องขอผงจากท่านมากดพิมพ์พระเพื่อเอาไปแจกญาติโยมทางบ้าน บางส่วนก็เอาไปบรรจุกรุไว้ที่จังหวัดบ้านของตนเอง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการเจอพระเนื้อผงพิมพ์ต่างๆ อยู่ในกรุนั้นกรุนี้ที่ไม่รู้ว่าใครสร้าง ส่วนพระชุดเบญจภาคีเพิ่งมาตั้งกันยุคหลังนี้เองโดย "อ.ตรียัมปวาย" นักเขียนรุ่นแรกๆที่เขียนตำราเกี่ยวกับพระสมเด็จ เป็นผู้ตั้งขึ้น การดูพระในสังคมพระเครื่องในปัจจุบันก็ยึดหลักของ "อ.ตรียัมปวาย" เป็นมาตราฐานในการตัดสิน ส่วนพระนางพญาที่ลงไว้นี้เป็นพระยุคปลายเพราะใช้น้ำมันตั้งอิ้วเป็นตัวประสานเนื้อพระ ส่วนพระยุคต้น-ยุคกลาง จะใช้น้ำอ้อยเคี่ยวและนัำผึ้งเป็นตัวประสานเนื้อพระ และจะมีคนสงสัยอีกว่ารู้ได้อย่างไรว่าพระองค์นี้ใช้อะไรเป็นตัวประสาน ก็ให้ดูจากคราบบนผิวพระและตามซอกครับ คราบตั้งอิ้วจะออกเหลืองหรือ เหลืองอมน้ำตาล ถ้าตั้งอิ้วหนาจะออกสีน้ำตาลเข้มเรียกสนิมตั้งอิ้ว ส่วนคราบน้ำผึังและน้ำอ้อยเคี่ยวสีก็จะต่างออกไป


วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วันนี้มาบอกบุญ

วันนี้ขออนุญาติบอกบุญกับเพื่อนๆ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบทำบุญ โดยพระครูภาวนาต้องการซื้อที่ดินเพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรม ที่ จ.ชัยภูมิ ผู้เขียนในฐานะศิษย์และ
กลุ่มญาติธรรมจึงช่วยท่านบอกบุญอีกทางหนึ่ง ซึ่งมีรายละเอียดตามด้านล่างที่ลงไว้นี้ 






พระสมเด็จวัดระฆัง ปิดทองร่องชาด

พระสมเด็จวัดระฆัง ปิดทองร่องชาดเป็นพระเก่าฝีมือช่างสิบหมู่แกะพิมพ์ ยินดีมอบให้กับผู้ทำบุญ ๑,๕๐๐ บาท จะได้ ๑ องค์ มีจำนวน ๕ องค์





พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ ๔ ก้นตัน

พระชัยวัฒน์ก้นตัน ประจำรัชกาลที่ ๔ สร้างในวาระพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธี
บรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๓๙๔  ใต้ฐานมีอักขระยันต์ มะ อุ อะ 
ยินดีมอบให้กับผู้ทำบุญ ๔,๕๐๐ บาทจะได้ ๑ องค์ มีจำนวน ๕ องค์