วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2562

พระพิมพ์ยืนปรกโพธิ์

วันนี้ขอเล่าเรื่องพระกรุเจดีย์เล็กต่อจากครั้งที่แล้ว สำหรับวันนี้เป็นพระพิมพ์ยืนปรกโพธิ์ พระพิมพ์นี้เคยสร้างมาก่อนตอนท่านอายุ 30 ปี และคงมีการสร้างอีกหลายครั้งแต่ไม่มีบันทึกชัดเจน ที่พบเจอพระจึงมีหลายสภาพ ทำให้สับสนว่าทำไมพระกรุจึงไม่มีคราบกรุ หรือเป็นพระสนาม ถ้าเราดูเนื้อพระสมเด็จเป็นและดูความเก่าเป็น เราก็จะแยกออกได้ว่าพระองค์นั้นใช่ของท่านสมเด็จโตหรือไม่ สำหรับพระพิมพ์ปรกโพธิ์ยืน จากหนังสือ "สมเด็จโต" ได้บันทึกการสร้างครั้งแรกไว้ว่า "เนื้อพระ เป็นเนื้อผงผสมขาวสุก ผงเกษร ผงใบลาน ผงดำ และน้ำอ้อยเคี่ยว เนื้อแห้งจะขาวตุ่น แข็งเหนียว วัดบางขุนพรหมนอก ทำมากพอควร ทำแจกในงานสร้างกุฏิโยมบิดา และมารดา (คำว่ากุฏิในที่นี้หมายถึงลักษณะคล้ายศาลซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้ว ท่านสร้างไว้ที่วัดอินทรวิหาร) แล้วมาทำพระพิมพ์นี้ขึ้นอีกครั้งในการฉลองกุฏิ เนื้อพระเหมือนกันพระพิมพ์ปรกโพธิ์ยืนนี้ เป็นพิมพ์ที่มีอานุภาพสูงป้องกันไฟได้ ดูแต่นายเงี๊ยบซึ่งถูกไฟเผาทั้งตัวแต่ไม่เผาถึงหนังเลย ท่านโตทำตอนฉลองกุฏิจึงมีคนมาขอไปหมด ต่อมาใน จ.ศ.1179 หรือ พ.ศ. 2360 ท่านโตอายุ 30 ปี ก็ได้ดำริที่จะสร้างพระใหญ่ยืนไว้ในวัดบางขุนพรหมนอกนี้ให้จงได้
พระพิมพ์นี้ก่อนที่ท่านโตจะคิดทำพระใหญ่ก็ได้มีคนเอาพระพิมพ์นี้มาถวาย แล้วท่านโตก็รับไว้แต่ยังไม่ได้พิมพ์นี้ออกมา พระพิพม์นี้ท่านโตได้เก็บไว้นาน จนท่านโตได้สร้างกุฏิถวายบิดาและมารดาขึ้น จึงได้คิดทำพระพิมพ์ยืนปรกโพธิ์ขึ้น ให้ญาติโยมที่เอาทราย ปูนหิน และน้ำอ้อยที่ผสมปูนขาวฉาบฝาผนังห้องมาให้ จะได้พระพิมพ์ยืนปรกโพธิ์นี้คนละองค์ พระพิมพ์ยืนปรกโพธิ์นี้ตอนทำฉาบฝาผนังกุฏิ ได้มีคนจีนเข้ามาหาท่านโตรับจะทำฉาบปูนให้และขออาหารกินไปวันๆ ท่านโตฟังแล้วเวทนา ท่านโตได้ถามว่าแกมาจากไหนชื่ออะไร อั๊วชื่อเงี๊ยบไม่มีญาติ ท่านโตได้ยินเสียงพูดไม่ชัดก็บอกว่า ถ้าไม่มีที่อยู่ก็อยู่เสียที่นี่ฉันจะอุปการะแกเองเรื่องกินแกไม่ต้องกลัวอด ตั้งแต่นั้นมานายเงี๊ยบก็ได้ทำงานทำปูนให้ท่านโตทุกวัน ได้ปลูกกระท่อมอยู่ที่หลังกุฏิที่ทำอยู่ ท่านโตได้เอาพระพิมพ์ยืนปรกโพธิ์ให้นายเงี๊ยบไว้ป้องกันตัว แล้วนายเงี๊ยบก็รับไว้เอาผ้าเย็บเป็นถุงแล้วเอาเชือกแขวนคอไว้เสมอ ต่อมาอีกสองเดือนการสร้างกุฏิได้ก่ออิฐฉาบปูนไปบ้างแล้ว บังเอิญปีนี้หนาวจัดท่านโตได้ซื้อผ้าห่มแดงให้นายเงี๊ยบหนึ่งผืนแล้วให้เงินไว้ซื้อของที่จำเป็น นายเงี๊ยบที่นอนหนาวมาหลายวันแล้ว คืนนี้จะได้นอนสบายสักที วันหนึ่งนายเงี๊ยบได้ก่อไฟไว้ใกล้ ๆ กระท่อมแล้วนายเงี๊ยบก็ขึ้นนอน พอตอนดึกได้มีลมพัดอย่างแรงพัดเอาเศษไฟที่นายเงี๊ยบก่อไว้ เข้าไปในกระท่อมที่มีเศษไม้ที่นายเงี๊ยบผ่าเอาไว้ต้มน้ำถวายท่านโต เศษเปลวไฟได้ก่อให้เกิดไฟลุกไหม้กระท่อมนายเงี๊ยบ ไฟลุกติดหลังคาจากแล้ว แต่นายเงี๊ยบยังนอนคลุมโปงอยู่ไม่รู้สึกตัว พระในกุฏิที่อยู่ห่างไปได้เห็นไฟไหม้
กระท่อมนายเงี๊ยบ ก็ได้เรียกพระและเณรให้ตื่นมาช่วยกันเอาน้ำดับไฟ นายเงี๊ยบตกใจที่ไฟไหม้ผ้าห่มหมด จึงเอามือปิดหน้ากระโดดออกมาไฟก็ยังติดเสื้อนายเงี๊ยบอยู่ พระที่เอาน้ำมาสาดกระท่อมเห็นนายเงี๊ยบไฟลุกทั้งตัวก็เอาน้ำสาดนายเงี๊ยบให้ไฟดับ ท่านโตพอรู้ก็ลงมาดูนึกในใจว่า ถ้าแกยังไม่ถึงคราวขอให้พระคุ้มครองด้วยแล้วท่านก็เดินมาถึง เห็นพระกำลังเอาเสื้อผ้ามาให้นายเงี๊ยบเปลี่ยน ตอนเช้าวันนั้นท่านโตได้ให้เด็กวัดไปซื้อกางเกงจีนให้นายเงี๊ยบ 3 ชุด พระที่เห็นนายเงี๊ยบโดนไฟไหม้ในวันนั้นอย่างน้อยก็ต้องไหม้ไปทั้งตัว นี่นายเงี๊ยบเพียงแต่ผิวหนังแดงเป็นผื่นเท่านั้นเอง เพราะมีพระที่ท่านโตให้ไว้กันอันตรายทั้งปวง ใครๆก็ไปขอพระพิมพ์นี้มาไว้ที่บ้านบูชากันอันตราย แล้วเอาเงินถวายค่าแรงที่ทำกุฏิบิดา มารดา อีกเดือนต่อมาก็เสร็จหมด
ท่านโตได้นิมนต์พระ 7 รูปมาฉลองกุฏิทั้งสอง และได้พิมพ์พระปรกโพธิ์ยืนนี้แจกอีกครั้งในงานฉลองกุฏิ พระที่ทำไว้แจกหมด ต่อมาพระพิมพ์นี้ท่านเจ้าคุณพรหมมาได้มายืมพิมพ์ไปพิมพ์พระที่วัดบางขุนพรหมในและได้ขอผงไปสองบาตรเอาไปพิมพ์แล้วพระพิมพ์นี้ก็อยู่วัดบางขุนพรหมใน ท่านโตพิมพ์พระพิมพ์นี้ยังเป็นท่านโตเท่านั้น ช่างอู่ต่อเรือบางขุนพรหมนอก เป็นผู้แกะพิมพ์ถวาย" ข้อมูลทั้งหมดเป็นบันทึกของหลวงปู่คำ คัดลอกมาให้อ่านจากหนังสือ "สมเด็จโต" หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านบ้าง ไม่มากก็น้อย







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น