วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2566

วันนี้ขอเขียนเรื่อง กำเนิดพระกริ่งในสยาม เท่าที่ศึกษาและเป็นความเข้าใจส่วนตัว จากหนังสือ "ช่างสิบหมู่" ของกรมศิลปากร หน้า ๒๓ ได้กล่าวไว้ว่า "เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยา ช่างฝีมือได้สูญไปมาก หลังจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์แล้ว ได้ทรงทำนุบำรุงวิชาช่างไทยขึ้นใหม่ให้เจริญรุ่งเรืองเหมือนเมื่อครั้งที่บ้านเมืองยังดีอีกครั้ง" ซึ่งหมายความว่าเราต้องมาเริ่มต้นรวบรวมช่างที่มีฝีมือดีขึ้นใหม่ จนถึงรัชกาลที่ ๓ ซึ่งมีการค้ากับจีนเจริญรุ่งเรือง ยุคนี้เริ่มมีการสร้าง พระพุทธรูปปางต่างๆเกิดขึ้นมากมาย และคงเริ่มมีการสร้างพระกริ่งเกิดขึ้นในยุคนี้ โดยเริ่มแรกเป็นการออกแบบ แล้วส่งให้จีนปั้นขึ้นรูปแล้วหล่อเป็นองค์พระส่งกลับมา เนื่องจากเราคงยังขาดช่างที่ชำนาญการหล่อพระกริ่งในช่วงเวลานั้น หลังจากนั้นช่างสิบหมู่เริ่มมีการหล่อพระกริ่งขึ้นเอง โดยใช้สูตรผสมสัมฤทธิ์ตามตำราโบราณ มาสร้างช่วงปลายรัชกาลที่ ๓ จนเข้าสมัยรัชกาลที่ ๔ ปี พ.ศ. ๒๓๙๔ เราเริ่มมีความชำนาญในการสร้างพระกริ่งจึงงดสั่งจากจีนอีก แล้วเริ่มสร้างเองเป็นพระกริ่งไทยเต็มรูปแบบ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งเนื้อ และพิมพ์ทรง จนมาเป็นพระกริ่งปวเรศที่เราสะสมกันอยู่ และเป็นต้นแบบของพระกริ่งปัจจุบัน พระกริ่งปวเรศบางพิมพ์ก็ได้แรงบันดาลใจจากพระกริ่งจีน เช่นพิมพ์ห่มคลุมและการตอกลายดอกจีวรเป็นต้น สำหรับพระกริ่งที่ลงในวันนี้ เป็นพระกริ่งยุคต้นที่สั่งเข้ามาจากจีน.




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น