วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่


พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่องค์นี้เป็นพิมพ์นิยม พระเนื้อค่อนข้างหยาบ ผ่านการใช้การล้างมาพอสมควรจนเนื้อพระเปิดจึงทำให้เห็นมวลสารต่างๆกระจัดกระจายอยู่ทั่วองค์พระ มีเศษพระสมเด็จที่แตกหักจากครั้งก่อน ถ่านแม่พิมพ์ แร่เหล็กไหล อิฐแดงชิ้นใหญ่ เศษพระซุ้มกอมีอยู่แต่เป็นชิ้นเล็กๆ และเม็ดพระธาตุเป็นต้น

วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561

พระสมเด็จองค์นี้เป็นพระเนื้อหนึกเหนียวอีกองค์หนึ่ง ซึ่งเนื้อแก่ข้าวสุก ปัจจุบันเรียกพิมพ์ทรงเจดีย์ แต่ในสมัยของท่านสมเด็จโตจะเรียกพระพิมพ์นี้ว่า"พิมพ์พระประธาน" คำว่าพระประธานก็คือพระประธานในโบสถ์วัดระฆังนั่นเอง คนรุ่นหลังให้เหตุผลว่าเมื่อตีเส้นจากฐานล่างสองข้างไปจบที่ปลายเกศ จะเป็นรูปสามเหลี่ยมเหมือนเจดีย์เลยเรียกพระพิมพ์นี้ว่า "พิมพ์ทรงเจดีย์" ต่อๆกันมาจนปัจจุบัน สำหรับพระองค์นี้เป็นพระเก่าเก็บสภาพสวยงามสมบูรณ์





วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พระองค์นี้อยู่ในกลุ่มเนื้อหนึกเหนียวเนื้อพระค่อนข้างละเอียดมีส่วนผสมของข้าวสุกมาก ข้าวสุกที่นำมาสร้างพระสมเด็จนั้นมีสองแบบคือ ๑ นำข้าวสุกไปตากแดดก่อนแล้วนำมาตำให้ละเอียดก่อนนำมาผสมมวลสารต่างๆ เนื้อพระประเภทนี้เมื่อใช้แว่นขยายส่องดูจะพบไตข้าวเป็นเม็ดเล็กๆคล้ายข้าวสารหักอยู่ในเนื้อพระ ส่วนแบบที่สอง ๒ คือนำข้าวสวยมาตำเลย ตำจนเหนียวแล้วนำมาผสมมวลสารต่างๆ เนื้อพระประเภทนี้จะดูหนึกเหนียวเช่นพระองค์นี้ ส่วนพื้นผนังพระองค์นี้จะมีการแตกลายแผ่วๆกระจายอยู่บ้าง และมีคราบสนิมตังอิ๊วให้เห็นตามซอกพองาม พระอยู่ในสภาพสมบูรณ์ 




พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่องค์นี้ เป็นพระเก่าเก็บอีกองค์มีสภาพสมบูรณ์ มีคราบแป้งสีขาวกระจายตามพื้นผนังองค์พระ พูดถึงคราบแป้งนี้เป็นการเรียกที่เข้าใจกันทั่วไป พระที่เก็บดีไม่ได้ใช้มักจะมีคราบแป้งเกิดขึ้น (โดยเฉพาะพระที่ส่วนผสมของปูนเปลือกหอย)  แต่ความเป็นจริงแล้วน่าจะเป็นคราบแคลเซี่ยมที่เกิดจากปูนผสมกับแร่แคลไซต์มากกว่า ไม่ใช่คราบแป้งโรยพิมพ์อย่างที่เข้าใจ ทั้งคราบแคลเซี่ยมและแร่แคลไซต์จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยระยะเวลาอันยาวนาน จึงค่อยๆเกิดขึ้นโดยธรรมชาติที่ละน้อย สิ่งเหล่านี้จึงสามารถบอกถึงอายุพระองค์นั้นได้ จึงเกิดมีคนเอาน้ำยามาเช็คแร่แคลไซต์บนพระสมเด็จเพื่อตรวจอายุพระองค์นั้น แต่น้ำยาตัวนี้จะเช็คได้เฉพาะพระที่มีส่วนผสมของปูนเท่านั้น ถ้าเป็นเนื้ออื่นจะเช็คไม่ได้ เช่นเนื้อชานหมาก เนื้อดินหรือเนื้อเทียนชัยเป็นต้น






วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2561

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เกศบัวตูม

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เกศบัวตูมองค์นี้ หลวงวิจารณ์เจียรนัยเป็นผู้แกะพิมพ์ รูปทรงองค์พระได้สัดส่วนสวยงาม เป็นพระเก่าเก็บ ตามผิวพระมีคราบสีน้ำตาลปกคลุมไปทั่ว อันเกิดจากคราบน้ำว่านที่ระเหยคลายตัวจากเนื้อพระทีละน้อย จนจับตัวกันเป็นชั้นเป็นแผ่นครอบคลุมผิวพระไปทั่วจนพระมีสีน้ำตาล ซึ่งในพระเนื้อดินโบราณเช่นพระรอด พระผงสุพรรณ พระซุ้มกอและพระนางพญาก็มีส่วนผสมของน้ำว่านเช่นกัน น้ำว่านนอกจากเชื่อกันว่าให้คุณวิเศษต่างๆแล้ว ยังเป็นตัวที่ช่วยประสานเนื้อพระให้มีความคงทนแข็งแกร่งไม่แตกหักง่ายอีกด้วย





วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่อกผาย มีเส้นสังฆาฏิพาดพระอุระ เกศทะลุซุ้ม มีพระกรรณ ๒ ข้างชัดเจนซึ่งส่วนใหญ่ มักเห็นข้างเดียวชัดบ้างไม่ชัดบ้าง บางตำราก็ว่าที่มีพระกรรณ ๒ ข้างท่านสร้างให้เจ้านายชั้นสูง ฝีมือการแกะพิมพ์เป็นงานหลวงวิจารณ์เจียรนัย ส่วนเนื้อพระองค์นี้เป็นเนื้อผสมแก่ปูนสุก ใช้น้ำมันตังอิ๊วและยางไม้เป็นตัวประสานเนื้อพระ





พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่อกวี

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่อกวีองค์นี้เป็นพิมพ์นิยม เป็นพระเก่าเก็บสภาพสวยสมบูรณ์ ผิวแตกลาย
สังคโลก มีคราบน้ำมันตังอิ๊วที่ระเหยปกคลุมอยู่ทั่วองค์พระจนพระออกสีเหลืองเห็นได้ชัดเจน





วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2561

พระพิมพ์ปรกโพธิ์ข้างละ ๘ -๙ใบ (วัดระฆัง)

สำหรับพระพิมพ์โพธิ์ ๘-๙ ใบนี้ จากบันทึกหลวงปู่คำว่า ท่านทำแจกในงานรับพัดยศ วัดระฆัง ครองสมณศักดิ์เป็นพระธรรมกิติโสภณ จ.ศ. ๑๒๑๗ หรือ พ.ศ ๒๓๙๘ ขณะนั้นท่านอายุ ๖๘ ปี หลวงสิทธิ์เป็นผู้แกะพิมพ์ถวาย พระพิมพ์นี้ที่เหลือ ได้เอามาบรรจุกรุที่วัดบางขุนพรหมใน (วัดใหม่อมตรส หรือวัดวะรามะตาราม) เมื่อ จ.ศ.๑๒๓๒หรือ พ.ศ. ๒๔๑๓ อายุ ๘๓ ปี  ส่วนเนื้อพระเป็นผงผสมข้าวสุก ผงเกสร ผงใบลาน ผงใบเสมา ผงดำ ผงเก่าที่เหลือจากการทำพระปรกโพธิ์พิมพ์ก่อน ใช้น้ำอ้อยเคี่ยวเป็นตัวประสาน เคยลงรักน้ำเกลี้ยงมาก่อน