วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พระปิดตาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พิมพ์พุ่งป่อง

พระปิดตาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พิมพ์พุ่งป่องเนื้อชินเงิน ตามประวัติเขาเล่าว่าท่านสร้างขึ้นเพื่อแจกในงานฌาปนกิจศพโยมมารดาท่าน ในปี 
พ.ศ.๒๔๖๓ เท็จจริงอย่างไรไม่ขอยืนยัน เพราะผู้เขียนหาหลักฐานอ้างอิงไม่ได้ เท่าที่พบเจอคือเนื้อผงคลุกรัก ส่วนเนื้อชินเงินนั้นพบเห็นน้อย 
ใต้ฐานพระฝังตะกรุดไว้ ๑ ดอก ด้านหลังจารอักขระ พระองค์นี้เจ้าของเดิมเจาะรูไว้ด้านบน แล้วร้อยห่วงเงินเอาไว้ ผู้เขียนไม่ได้แกะออกเก็บไว้ดูสภาพเดิมๆ



ที่ใต้ฐานได้มีตะกรุดฝังไว้ ๑ ดอก

วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จกรุวัดบางขุนพรหม พิมพ์หน้าโหนกอกครุฑ

พระสมเด็จพิมพ์หน้าโหนกอกครุฑนั้นเข้าใจกันว่ามีเฉพาะกรุวัดบางขุนพรหม แต่ความจริงแล้วที่วัดระฆ้งทำมาก่อนทั้งสิ้น และพิมพ์หน้าโหนกอกครุฑของวัดระฆังนั้นก็มีหลายพิมพ์ด้วยกัน หลวงปู่คำได้บันทึกไว้ว่า
"พระพิมพ์หน้าโหนกอกครุฑ พิมพ์ที่ดี ๆ มี ๑๖ พิมพ์ แตกหักไป ๒๐ กว่าพิมพ์" (เฉพาะของวัดระฆัง) ส่วนของวัดบางขุนพรหมนั้นไม่ได้บอกไว้ พระองค์นี้ตอนออกจากกรุน่าจะอยู่ในกรุชั้นที่ ๒ พระชั้นนี้จะมีน้ำมันตั้งอิ้วผุดออกมาเป็นเม็ด ๆ คล้ายไข่ปลา และจะมีคราบเป็นแผ่นปื้นอยู่ตามผิวพระทั่วไป มากบ้างน้อยบ้าง
บางคนเรียกคราบนี้ว่า "ขี้กรุฟองเต้าหู้" ส่วนเนื้อพระองค์นี้เป็นพระเนื้อแก่ปูนเหมือนพระกรุบางขุนพรหมองค์อื่นๆ




วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จกรุวัดบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่

พระองค์นี้เป็นพระที่อยู่ชั้นล่างสุดของกรุจะเรียกว่าพระก้นกรุก็ได้ พระกรุวัดบางขุนพรหมนั้นแบ่งออกเป็น ๕ ชั้น ชั้นล่างสุดหรือก้นกรุ เขาจะลงปูนขาวเอาไว้ เวลาน้ำท่วมปูนขาวจะละลายอีกทั้งยังมีการเทน้ำลงไปในกรุเวลาเขาตกพระในยุคแรกๆ น้ำปูนขาวที่ละลายนั้นจะจับตัวองค์พระ เมื่อปูนขาวแห้งสนิท ก็จะเป็นก้อนแข็งติดอยู่ที่องค์พระ พระชั้นนี้มักจะจับตัวติดกันเป็นก้อนแกะออกยากมากมักจะแตกหักเสียหาย ส่วนองค์ไหนไม่แตกหักก็จะมีขี้กรุจับองค์พระทั้งองค์ อย่างที่เห็นองค์นี้เป็นต้น






พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ วัดบางขุนพรหม

พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่องค์นี้ เป็นฝีมือช่างสิบหมู่แกะพิมพ์ เนื้อพระเป็นเนื้อที่แก่ปูนสุกตามสูตรที่ทำบรรจุกรุวัดบางขุนพรหมในยุคนั้น ผิวพระมีคราบสนิมตั้งอิ้วปนกับคราบไขทำให้ดูมีสีสันสวยงาม มวลสารต่างๆจะไม่มากเหมือนของวัดระฆัง แต่มีกระจายให้เห็นอยู่ทั่วไปโดยเฉพาะผงพุทธคุณ พระองค์นี้ถือว่ามีธรรมชาติที่สวยมากองค์หนึ่ง น่าจะเป็นพระชุดแรกๆที่ออกจากกรุ วัดบางขุนพรหมนั้นเดิมทีมีชื่อว่า "วัดวะรามะตาราม" พอมีถนนตัดผ่านวัดแบ่งเป็น ๒ วัด เรียกว่า "วัดบางขุนพรหมใน"
ส่วน"วัดบางขุนพรหมนอก" ก็คือ"วัดอินทรวิหาร" ในปัจจุบัน  หลวงปู่คำได้บันทึกไว้ว่า"วัดวะรามะตาราม"  เป็นวัดที่ชาวมัญได้สร้างไว้ นายเดชเป็นผู้บูรณะวัดแต่ยังไม่เสร็จได้เสียชีวิตก่อน ต่อมาเสมียรตราด้วงได้มาบูรณะต่อจนเสร็จเรียบร้อย และได้ทำพระสมเด็จมาบรรจุไว้ในปี พ.ศ.๒๔๑๓ การทำพระครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่สมเด็จโตได้นิมนต์พระมา ๙ รูปเพื่อช่วยเบิกพระเนตรเพราะพระมีจำนวนมาก โดยปกติท่านจะทำของท่านรูปเดียว ถ้าจะให้ครบ ๓ รูปก็จะนิมนต์หลวงปู่คำและขรัวตาพลอยเท่านั้น พระทั้ง ๙ รูปที่มาช่วยเบิกพระเนตรในครั้งนั้นมี ๑. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ๒. พระครูใบฎีกา (หลวงตาพลอย) วัดระฆัง ๓. ปลัดโฮ้ วัดระฆัง ๔. พระราชธรรมวาจา (ท่านจันทร์) วัดทรงประมูล ๕. พระราช (ปู่คำ) วัดอัมรินทร์ ๖. พระครูพิพ้ฒน์ (ท่านเป้ง) วัดลครทำ 

๗. พระเทพกวีศรีสุนทร (ท่านเซ่ง) วัดแจ้งหรือวัดอรุณ ๘. พระธรรมเมธี (รอด) วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) ๙. พระธรรมากร (คง) วัดสะแก 
ปัจจุบัน"วัดบางขุนพรหมใน" ใช้ชื่อว่า "วัดใหม่อมตรส"



ในบันทึกหลวงปู่คำว่าการทำพระครั้งนั้นมีผู้คนมาช่วยกันทำจำนวนมากมีทั้งหญิงและชาย ผู้หญิงจะทำได้เรียบร้อยสวยงามกว่าผู้ชาย โดยผู้หญิงจะใช้มีดเจียนหมากตัดขอบพระและลูบสันลบคมให้เรียบร้อย
ส่วนผู้ชายใชัเล็บตัดบ้าง ก้านธูปตัดบ้างแล้วแต่จะหาวัสดุได้ พระที่ทำจึงไม่สวยงามเหมือนผู้หญิงทำ 

ส่วนพระองค์นี้ใข้ของมีคมตัด องค์พระดูสวยงามเรียบร้อย น่าจะเป็นผู้หญิงทำ



วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พระรอดพิมพ์ใหญ่ วัดมหาวัน สีสามกษัตริย์






ด้านหลังพระรอดส่วนใหญ่จะปรากฏลายนิ้วมือแทบทั้งสิ้น และมีความเหี่ยวย่นทั้งหน้าและหลัง มีรอยลาน บิ่นแตก มีความเหี่ยวเป็นร่องลึก 
บางท่านเรียกหลังลักษณะนี้ว่า "หลังเกลียวเชือก"


วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พระรอดพิมพ์ใหญ่ วัดมหาวัน สีขาวดอกจำปี

วันนี้ให้ดูพระรอดขาวอีกองค์ ที่ว่าเป็นเนื้อดินศิลาธิคุณ ดินศิลาธิคุณนั้นมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ฤๅษีผสมแล้ว" เป็นของขลังดีในตัวเองทุกด้านรวมทั้งการรักษาโรคด้วย มีหลายท่านเชื่อว่า "ท่านสมเด็จโต" ได้นำของสิ่งนี้มาสร้างพระสมเด็จของท่าน ซึ่งก็เป็นไปได้เพราะถือเป็นของมงคล และเมื่อผสมแห้งแล้วจะมีความแข็งและยึดตัวดี



วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พระรอดลำพูน สีดอกจำปี

พระรอดองค์นี้เป็นพิมพ์ใหญ่(มีปีก) กรุวัดมหาวันสีดอกจำปี หรือสีดินดิบ เนื้อดินดิบของพระรอดนั้นมี ๒ แบบคือเผากับไม่เผา ที่ไม่เผาหรือเผาด้วยไฟอ่อนจะใช้ดินศิลาธิคุณ ผสมว่าน ดินศิลาธิคุณนี้ลักษณะใกล้เคียงกับเนื้อพระสมเด็จมาก
ในหนังสือ "ภาพ-ประวัติ พระสมเด็จโต" เขียนโดย "พ.ต.ต.จำลอง มัลลิกะนาวิน" ก็ได้กล่าวไว้ว่าพระสมเด็จวัดระฆังนั้น จะมีส่วนผสมของ ดินศิลาธิคุณอยู่ แต่ในบันทึกของ"หลวงปู่คำ" ไม่ได้กล่าวถึงดินศิลาธิคุณเลย ก็เก็บไว้เป็นข้อมูลไว้พิจารณาแล้วกันครับ




วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูม

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูมองค์นี้เป็นฝีมือข่างสิบหมู่ เป็นพระยุคกลาง ตามที่เคยบอกไว้แล้วว่าพระยุคต้นและยุคกลางจะมีมวลสารต่างๆมากกว่าพระยุคปลาย รวมทั้งจะพบเห็นตะไตร่ ๓ อย่างผสมอยู่ และจะพบเห็นมากกว่าพระยุคปลาย




วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ยุคกลาง

พระสมเด็จองค์นี้เป็นพระยุคกลาง พิมพ์ทรงเริ่มลงตัวแต่ยังมีความหนาอย่างเห็นได้ชัด พระพิมพ์ใหญ่องค์นี้โบราณเรียก "พิมพ์ชายจีวรบาง" เป็นพระเนื้อแก่ผง ผสมข้าวสุกใช้น้ำอ้อยเคี่ยวเป็นตัวประสาน ลงรักดำมาแต่เดิมรักได้หลุดไปเสียส่วนใหญ่ ยังคงเหลือติดให้เห็นเป็นบางส่วน ซึ่งรักได้แห้งสนิท
ถือเป็นพระสมเด็จวัดระฆังที่ดูง่ายองค์หนึ่ง



วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง เนื้อก้นครก

พระสมเด็จวัดระฆังองค์นี้เป็นพระยุคกลาง ยังใช้น้ำอ้อยเคี่ยวเป็นตัวประสานเนื้อพระ เป็นพระเนื้อหยาบหรือเนื้อก้นครก ผ่านการใช้และการล้างมามากพอควรผิวพระได้เปิดออกหมดทำให้เห็นมวลสารชัดเจน พระยุคต้นและพระยุคกลางนั้นจะมีมวลสารหลากหลายและมากกว่าพระยุคปลาย แต่พิมพ์ทรงจะสวยสู้พระยุคปลายไม่ได้ พระองค์นี้เป็นฝีมือการแกะพิมพ์ของช่างสิบหมู่ที่พูดอย่างนี้เพราะช่างชาวบ้านจะแกะพิมพ์ทรงไม่ได้สัดส่วนเช่นนี้ พระพิมพ์นี้ที่ข้อพระกรซ้ายไม่มีชายจีวร คนยุคปัจจุบันจะเรียก "พิมพ์ทรงเจดีย์" แต่ถ้าเป็นของดั้งเดิมจะเรียกว่า "พิมพ์พระประธาน"






ด้านหลังองค์พระจะเห็นคราบตะไคร่ ซึ่งในพระสมเด็จนั้นจะมีผสมอยู่แต่ที่เจอมากคือพระยุคต้นและยุคกลาง ตะไคร่ที่ผสมนั้นมี ๓ อย่างคือ ๑.ตะไตร่เจดีย์ กันภูตผีปีศาจและเสนียดจัญไร ๒.ตะไคร่รอบโบสถ์ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ และกันคนกระทำ แก้ธรณีสาร ๓.ตะไคร่ใบเสมา เป็นมหานิยม เป็นเมตตาและทางแคล้วคลาดดีนัก ในพระสมเด็จจะผสมผงตะไคร่ทั้ง ๓ อย่างนี้เพราะถือเป็นศิริมงคลดีนักแล

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูม (ลงรักน้ำเกลี้ยง)

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูม องค์นี้ลงรักน้ำเกลี้ยง มีคราบปรอทเกาะกระจายอยู่ตามพื้นผนัง ส่วนด้านหลังปริแยก ยังมีสภาพสวยสมบูรณ์