วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2563

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เนื้อกังใส บางท่านเรียกเนื้อปูนเพชร แต่โดยส่วนตัวเข้าใจว่า น่าจะเป็นพระเนื้อดินจากเมืองจีนมากกว่า ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ท่านได้สั่งดินเข้ามาจากเมือง"อันฮุย" เพื่อนำมาทำเครื่องเบญจรงค์ (โดยให้ทางวังหน้าเป็นผู้จัดทำ) และได้นำดินนี้มาสร้างพระชุดนี้ขึ้น ดินนี้อยู่ในกลุ่มดิน พอร์ซเลน (Porcelain) เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว และมีการเคลือบผิวเป็นมัน เนื้อละเอียด บางท่านก็เรียก "ดินเกาลิน" ส่วนเนื้อปูนเพชร หรืออีกชื่อเรียก "ประทาย" นั้นเนื้อจะหยาบกว่า ปูนเพชรเป็นปูนสำหรับทำงานปั้น (ปั้นสด) ส่วนใหญ่เพื่อประดับตกแต่งศาสนสถาน เรียกกันว่างานปูนปั้น ช่างที่มีชื่อทางด้านนี้ต้องยกให้ช่างจังหวัดเพชรบุรีที่มีฝีมือโดดเด่น เป็นเลิศ เรียกว่า งานสกุลช่างเพชรบุรี งานปูนปั้นที่เก่าและงดงามอยู่ที่ หน้าบันโบสถ์วัดเขาบันไดอิฐ (วัดหลวงพ่อแดง) เป็นงานปูนปั้นไว้ตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังมีอีกหลายวัดที่ยังเหลือไว้ให้ชม ที่พบงานปูนปั้นเก่าที่สุดคือสมัยทวารวดี สำหรับพระสมเด็จ จะเป็นปูนเพชร หรือดินจากเมืองจีน ขอให้เป็นพระที่ท่านสมเด็จโตอธิฐานจิต ก็น่าเก็บสะสมทั้งนั้นครับ "สวัสดี"






 

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563

พระกริ่งปวเรศปี พ.ศ. ๒๔๑๖ เนื้อสัมฤทธิ์ พระองค์นี้เคยเปียกเงินมาก่อน ปัจจุบันได้หลุดหายไป เหลือไว้ให้เห็นเป็นบางส่วน ที่แปลกใจคือใต้ฐาน จารคำว่า "อาจาโร" และมีตัวอักษรรอบฐาน พยายามหาข้อมูลว่า เกี่ยวพันกับ "หลวงปู่ฝั้น" อย่างไรหรือไม่? แต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูล เชื่อว่าต้องมีผู้รู้ และหวังว่าคงจะได้ข้อมูลที่กระจ่างสักวัน.





 

พระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลที่ ๔ (บางท่านยุคนี้เรียกพระชัยวัฒน์หัวไม้ขีด) พระชุดนี้สร้างปี พ.ศ.๒๓๙๔ ฉลองรัชกาลที่ ๔ ขึ้นครองราช มีแบบก้นตันและแบบมีกริ่ง มี ๒ พิมพ์คือปางมารวิชัย และแบบปางสามธิ แบบมีกริ่งก้นจะมี ๓ แบบคือปิดด้วยแผ่นทองคำ เงิน และนาค สำหรับพระที่ลงวันนี้เป็นปางมารวิชัย แบบมีกริ่ง เนื้อนวโลหะสัมฤทธิ์เดชก้นปิดด้วยแผ่นทองคำจารพุฒซ้อน สัมฤทธิ์เดช นวโลหะ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์คุณ แต่มีสัดส่วนการผสมได้เกณฑ์ถูกต้องตามมูลสูตรมากที่สุด ตามลำดับ เกณฑ์อัตราส่วนผสมของโลหะทั้ง ๙ชนิด มีดังนี้ ๑. ชิน หนัก ๑ บาท ๒. จ้าวน้ำเงิน หนัก ๒ บาท ๓. เหล็กละลายตัว หนัก ๓ บาท ๔. ตะกั่วเถื่อน หนัก ๔ บาท ๕. ปรอท หนัก ๕ บาท ๖. สังกะสี หนัก ๖ บาท ๗. บริสุทธิ์ (ทองแดงเถื่อน) หนัก ๗ บาท ๘. เงิน หนัก ๘ บาท ๙. ทองคำ หนัก ๙ บาท





 

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เนื้อข้าวสุกผสมผง ฝีมือช่างหลวงแกะแม่พิมพ์ เข้าใจว่าเป็นฝีมือของหลวงวิจิตร นฤมล แกะแม่พิมพ์ได้ชัดลึก สมส่วน สมดุลซ้าย-ขวา งดงาม ถ้าเปรียบลายมือเป็นคนที่มีลายมือประณีตบรรจงเป็นระเบียบ สำหรับเนื้อพระเป็นเนื้อข้าวสุกผสมผง และมวลสารต่างๆ ส่วนพระเนื้อข้าวสุกนี้ หลวงปู่คำว่าท่านสมเด็จโต ทำไว้สองแบบคือ นำข้าวสุกมาตำเลยโดยไม่ตากแดดก่อน กับนำข้าวสุกไปตากแดดก่อน แล้วค่อยนำมาตำ พระที่ลงวันนี้เป็นเนื้อแบบแรก พระองค์นี้เป็นพระยุคปลายเพราะใช้น้ำมันตังอิ๊วเป็นตัวประสาน สภาพพระสวยสมบูรณ์มาก.








 

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2563

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ พระองค์นี้เป็นพระยุคกลางฝีมือช่างสิบหมู่ สภาพผ่านการล้าง การใช้มาจนช้ำ เนื้อพระเป็นเนื้อผงผสมข้าวสุก ใช้น้ำอ้อยเคี่ยวและยางไม้เป็นตัวประสาน พระองค์นี้ถ้าไม่ผ่านการล้างจะเป็นพระที่สวยงาม แต่เดิมคงมีรักกับทองเต็มผนังพื้น เจ้าของเดิมคงอยากเห็นเนื้อใน เพราะคิดว่า เนื้อในคงงามเหมือนใบหน้า แต่เมื่อพยายามล้างรักออกแล้ว เนื้อในไม่เป็นอย่างที่คิดจึงหยุดล้าง พระเลยเป็นสภาพอย่างที่เห็น พระที่ลงรักปิดทองมาแต่เดิม ควรเก็บรักษาไว้สภาพเดิม ถ้าต้องการทำความสะอาด ใช้น้ำอุ่นและพู่กันนุ่มๆล้างก็เพียงพอแล้ว สำหรับพระองค์นี้ จัดว่าเป็นพระที่ดูง่ายองค์หนึ่ง.








 

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2563

พระนางพญาพิมพ์เข่าตรง กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก พระองค์นี้ลงรักไว้เก่า ดูเป็นสีดำทั้งองค์ มีความเหี่ยวของเนื้อดี พิมพ์คมชัดดี สภาพสมบูรณ์ น่าเสียดายที่ตรงหน้าผากมีตำหนิเท่านั้น.





 

พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน ในอดีตเป็น ๑ ใน ๕ ของพระชุดเบญจภาคี ก่อนที่จะมาเปลี่ยนเป็นพระซุ้มกอแทน เหตุเพราะความหายาก และมีรูปทรงแนวตั้ง เวลาแขวนเข้าชุดดูไม่ลงตัว เลยเปลี่ยนเป็นพระซุ้มกอแทน เพราะเล็กกว่า มีจำนวนมากกว่า ที่สำคัญคือเป็นพระกรุเดียว พุทธคุณเหมือนกัน พระกำแพงลีลาเม็ดขนุนเป็นพระปางลีลาศิลปะสุโขทัย แบ่งออกเป็นสองพิมพ์คือพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก.





 

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เนื้อว่านสบู่เลือด หรือ "สมเด็จแดงกวนอู" ที่คนยุคท่านสมเด็จโตตั้งชื่อให้ ท่านสร้างแจกเฉพาะทหารที่ไปรบกับเงี้ยว เท่านั้น (ทหารได้รับชัยชนะกลับมา) พระที่เหลือทั้งหมดท่านให้พระยากลาโหมนำไปบรรจุไว้ในเจดีย์ทอง ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา.






 

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2563

เหรียญหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิมพ์จอบใหญ่



 

พระสมเด็จนางใน เป็นพระสมเด็จที่มีขนาดเล็ก ที่ท่านสมเด็จโตได้สร้างไว้ อ.พน นิลผึ้ง ได้เล่าว่า ในสมัยนั้นพวกนางในพระราชสำนัก ได้ขอให้ท่านสมเด็จโต ทำพระองค์เล็กๆสำหรับผู้หญิงไว้ใช้บูชาบ้าง เพราะท่านทำแต่พระองค์ใหญ่ ท่านเลยทำพระองค์เล็กขึ้นสำหรับแจกผู้หญิง (ส่วนใหญ่แจกผู้ที่ทำงานในราชสำนัก) เลยเรียกกพระองค์เล็กชุดนี้กันว่า "สมเด็จนางใน" พระองค์เล็กนี้ที่พบเจอมีอยู่หลายพิมพ์ ส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือช่างหลวงแกะแม่พิมพ์ ช่วงเวลาที่ผ่านมาผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก ว่าพระชุดนี้เป็นของท่านสมเด็จโตได้ทำไว้ แต่ในปัจจุบันคนเข้าถึงสื่อได้ง่ายขึ้น ทำให้เข้าใจและได้ข้อมูลมากขึ้น พระเหล่านี้ต่อไปก็จะหายากขึ้นเช่นกัน.