พระองค์นี้เป็นพิมพ์เจดีย์ เนื้อตะกั่่วถ้ำชา คำว่า "ตะกั่่วถ้ำชา" มาจากกล่องหรือกระป๋องที่ใส่ใบชาในสมัยนั้นท่านเอาเศษที่เหลือใช้มาทำพระ พระตะกั่วถ้ำชานี้มี ๒ แบบ
คือ ๑.แบบทุบ ท่านจะเอาแผ่นตะกั่วบางๆมาทุบกดลงแม่พิมพ์เป็นทรงพระ แบบทุบนี้สามารถม้วนได้คนในสมัยนั้นบางคนที่ได้ไปก็เอาไปม้วนเป็นตะกรุดไว้คล้องคอ แบบทุบที่มีเนื้อหนาก็มี
แบบที่ ๒.แบบหล่อท่านเอาเศษตะกั่วที่เหลือมาเทหลอม โดยใช้แม่พิมพ์ที่พิมพ์แล้วมากดกับดินเป็นแผง ๆละ ๒๐ พิมพ์ พอพิมพ์ดินแข็งตัวดีแล้ว ก็เทน้ำตะกั่วที่หลอมละลายลงบนพิมพ์ทิ้งให้เย็นแล้วเอามาตัดขอบให้เรียบร้อย
เสร็จแล้วจึงนำมาปลุกเสก พระพิมพ์ที่หล่อนี้จะมีความหนา พระเนื้อตะกั่วถ้ำชาเท่าที่ผู้เขียนค้นข้อมูลได้ ท่านทำครั้งแรกตอนอายุ ๒๖ ปี อาจจะมีก่อนหน้านี้แต่ยังหาข้อมูลไม่พบ นอกจากที่ท่านทำแจกแล้วท่านยังได้นำไปบรรจุกรุด้วย
เช่นกรุวัดลครทำ กรุวัดบางขุนพรหมนอก (วัดอินทรวิหาร) กรุวัดเกศไชโย กรุที่จังหวัดอยุธยาก็มี พระเนื้อตะกั่วถ้ำชาที่บรรจุกรุจะเกิดสนิมแดง ถ้าไม่ได้บรรจุกรุก็จะเป็นสีดำอมเทา พระองค์ที่ลงไว้นี้เป็นพิมพ์หล่อที่บรรจุกรุ |